พฤติกรรมการบริการที่ควรหลีกเลี่ยง
- weerada kawinraweebarirak
- 8 ส.ค. 2566
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 17 เม.ย.
โดย อาจารย์วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์

"เราทำงานตามหน้าที่ด้วยความเคยชิน บางครั้งละเลยคำว่า ใส่ใจ กับลูกค้าผู้อยู่ตรงหน้า"
ลักษณะผู้ให้บริการที่สร้างความประทับใจพึงพอใจต่อลูกค้าผู้มารับบริการมีหลายข้อ ที่ควรนำไปใช้เพื่อการพัฒนาทักษะด้าน Upskills (Upskill คือการเพิ่มความรู้ ทักษะในงานที่ทำอยู่ให้มีความรู้ใหม่ๆ ความชำนาญ)
ตัวอย่างลักษณะผู้ให้บริการที่สร้างความประทับใจพึงพอใจ 10 ข้อ
มีทักษะความรู้ในการบอกข้อมูลและแนะนำ
มีความเป็นมืออาชีพในงาน
มีความเข้าใจและรับผิดชอบในการทำงาน
กิริยามารยาทสุภาพอ่อนโยน
ยิ้มแย้มแจ่มใส
ให้ความใส่ใจสนใจผู้รับบริการและงานที่ทำ
พูดจาฉะฉานชัดถ้อยคำ
กระตือรือร้นพร้อมช่วยเหลือ
มีความเป็นกันเอง
แต่งกายเรียบร้อยสุภาพ
จากข้างต้น คือส่วนหนึ่งของการสร้างภาพลักษณ์บุคลิกภาพภายในและภายนอก ในการเป็นผู้ให้บริการที่ดีน่าเชื่อถือไว้วางใจ แต่ในการทำงานแต่ละสายอาชีพนั้น ทักษะเฉพาะเพื่อพัฒนาในงานอาจเพิ่มพูนความรู้แตกต่างไปตามงานที่ทำ
ตัวอย่างสำหรับสายงานด้านการแพทย์ : ปฏิบัติงานกับผู้ป่วย ผู้มาตรวจสุขภาพและการรักษา ต้องเพิ่มทักษะสำคัญ 3 ด้าน
การสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ
การแก้ปัญหาและตัดสินใจ
การมีภาวะผู้นำ
ตัวอย่างสำหรับงานด้านการขาย: ต้องเพิ่มทักษะสำคัญ 3 ด้าน
การขายโน้มน้าวจูงใจ
ทักษะการฟัง
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
หากเป็นไปได้ผู้ให้บริการ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรม (Behaviors) เหล่านี้ โดยเด็ดขาด
ประกอบไปด้วย
1. มองด้วยหางตา เหล่มอง มองต่ำลงกว่าระดับอก :
ทำให้เสียบุคลิกภาพ ลูกค้าไม่ชอบอย่างมากถือเป็นการไม่ให้เกียรติและสร้างการต่อต้านการรับบริการโดยไม่รู้ตัว
2. ลืมยิ้ม หน้าบึ้งตึง :
แม้ขณะใส่Maskย่อมสังเกตได้ ว่ายิ้มหรือไม่ ? เพราะธรรมชาติรอยยิ้มที่จริงใจส่งออกทางสายตา เริ่มต้นการเดินออกจากบ้านด้วยรอยยิ้มเป็นการเริ่มต้นที่ดี
3. พูดลับหลัง พูดกระแทกหรือพูดหยาบคาย :
เป็นการทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือในตัวผู้พูด พร้อมทั้งบ่งบอกถึงความไม่จริงใจในการให้บริการ
4. ก้มหน้าทำงาน หันหลังให้ :
พฤติกรรมนี้แสดงถึงการไม่ใส่ใจ ไม่สนใจหรือไม่พร้อมทำงาน ข้อนี้มักเกิดข้อร้องเรียนเสมออาจอันเนื่องจากภาระหน้าที่งาน จำนวนผู้มารับบริการมาก ข้อนี้สำคัญมากเมื่อมีผู้มารับบริการจำนวนมากต้องใช้การสื่อสารตามหลัก Waiting Time ทำอย่างไรให้คิวที่รอคอยพึงพอใจ ?
5. ทำหน้าที่แบบหุ่นยนต์ :
เป็นการแสดงออกการทำงานตามหน้าที่ ซึ่งขาดInner คือขาดจริตความใส่ใจ ควานสนใจ เมื่อลูกค้าผู้รับบริการพบเห็นรู้สึกหดหู่ ไม่ประทับใจ มองภาพลักษณ์องค์กรไม่ดี
6. เล่นโทรศัพท์มือถือ :
ข้อนี้เป็นเรื่องที่ถูกร้องเรียนบ่อยในการให้บริการ เพราะลูกค้ามองว่าไม่สนใจ ไม่ใส่ใจในตัวเขา ดังนั้น การแก้ไขคือ งดใช้โทรศัพท์ส่วนตัวขณะปฏิบัติหน้าที่เว้นเสียแต่ช่วงพัก และเมื่อต้องใช้โทรศัพท์มือถือติดต่องานจริง ควรมีเทคนิคท่าทาง(บุคลิกภาพนี้สามารถฝึกท่าทางได้)ในการถือโทรศัพท์ การส่งข้อมูลผ่านงานทางโทรศัพท์ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาอ่านดูโทรศัพท์แบบใจจดจ่อ
7. คุยเรื่องอื่น :
ข้อห้ามขณะให้การบริการที่สำคัญไม่แพ้ท่าทางภาษากายคือ ขณะปฏิบัติงานห้ามพนักงานพูดคุยเรื่องอื่นที่ไม่ใช่งานที่อยู่ตรงหน้า หรือสถานการณ์อื่น เช่น ห้ามคุยเรื่องประเด็นข่าวสำคัญวันนี้ รายการโทรทัศน์ ละคร เรื่องภายในครอบครัว เรื่องลูกค้าท่านอื่น เรื่องหัวหน้างาน ปัญหาในองค์กร เพราะลูกค้าอาจมองว่าผู้ปฏิบัติงานไม่น่าไว้ใจ ไม่สนใจในหน้าที่ตนเองและมีโอกาสตำหนิร้องเรียนสูง
8. เป็นคนไร้น้ำใจ :
งานบริการคืองานที่มีเงาสวยงามตามติดตัวทุกขณะชื่อ “มิตรไมตรี” เสมือนวัฒนธรรมการบริการญี่ปุ่นตามหลักการแบบ “โอโมเตนาชิ (Omotenashi) แปลว่าการบริการด้วยไมตรีจิต” ต้องทำงานด้วยความเห็นอกเห็นใจ มองผู้รับบริการเสมือนญาติมากกว่าคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า หรือ เราคือผู้รู้ที่เหนือกว่า ดังนั้นต้องแสดงความมีน้ำใจแม้ไม่ได้ใส่ไว้ในบทบาทหน้าที่โดยลูกค้ามิต้องร้องขอ
9. กลัวผู้รับบริการ :
บางครั้งผู้ให้บริการกลัวการพูดคุยสนทนา การอธิบาย การแก้ปัญหาข้อขัดแย้งกับลูกค้า จึงเกิดการปะทะ ร้องเรียน (Complaints) เรื่องเล็กๆจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลายเพราะการไม่อธิบายแก้ไข
10. ละเลยลูกค้า :
เมื่อให้บริการตามลำดับก่อนหลังในการทำงานกับลูกค้าทุกครั้ง อย่าละเลยชื่นชมขอบคุณลูกค้าที่ปฏิบัติตนถูกต้อง ลูกค้าผู้รับบริการที่น่ารัก มารยาทดี แต่ไม่พูดกระแทกกระทั้นใส่ลูกค้าอื่นที่ไม่น่ารัก เพราะนั่นแสดงถึงความไม่น่ารักของผู้ให้บริการเสียเอง การชื่นชมขอบคุณลูกค้าที่ดีถือเป็นการให้รางวัลการจูงใจเชิงบวกให้ผู้รับบริการกลับมาหา ใช้บริการเราอีกครั้ง
Comments